การทัวร์ญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นเป้าหมายอันดับต้น ๆ สำหรับใครที่อยากจะท่องเที่ยวในประเทศแถบเอเชียกันเลยทีเดียว เพราะเรียกได้ว่าเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม สภาพภูมิประเทศ ลักษณะทางสังคมและวิถีการดำเนินชีวิตที่มีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไปในแต่ละภูมิภาค โดยประเทศญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นหมู่เกาะตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลแปซิฟิกของเอเชียตะวันออก ซึ่งนั่นก็ทำให้ประเทศญี่ปุ่นมีสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันมากตั้งแต่เหนือจรดใต้ รวมไปถึงมีความหลากหลายทางชีวภาพที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งบอกได้เลยว่ามาครั้งเดียวเที่ยวญี่ปุ่นไม่ทั่วอย่างแน่นอน ต้องมาเที่ยวซ้ำกันอีกหลายรอบ
แต่ทั้งนี้ประเทศญี่ปุ่นก็ยังเป็นประเทศที่มีภูเขาไฟที่ยังคงมีพลังอยู่มากถึง 108 แห่ง และยังเป็นประเทศที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลนั่นจึงทำให้ญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงภัยธรรมชาติสูงสุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกด้วยเช่นกัน ดังนั้นใครที่วางแผนจะไปทัวร์ญี่ปุ่นนอกจากจะดูในเรื่องของสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นแล้วก็แนะนำให้ตรวจสอบสภาพอากาศและความเสี่ยงของภัยพิบัติต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้บริเวณภูมิภาคหรือพื้นที่ที่จะไปทัวร์ญี่ปุ่นกันด้วย จะได้เที่ยวญี่ปุ่นแบบปลอดภัยไร้กังวล
ข้อมูลเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นมีชื่อเรียกว่า “นิฮง” หรือ “นิปปง” ซึ่งแปลว่าถิ่นกำเนิดของดวงอาทิตย์ จึงทำให้ถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย เป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นหมู่เกาะน้อยใหญ่รวมแล้วมาถึง 6,852 เกาะ ครอบคลุมพื้นที่ 377,975 ตารางกิโลเมตร ทอดตามชายฝั่งแปซิฟิกของเอเชียตะวันออก รวมด้วยกันทั้งสิ้นถึง 6,852 เกาะ โดยหมู่เกาะหลักจากภาคเหนือลงมาก็จะประกอบไปด้วย ฮอกไกโด ฮนชู ชิโกกุ และคิวชู โดยมีหมู่เกาะริวกิวรวมทั้งเกาะโอกินาวะเรียงกันอยู่ทางใต้ของคิวชู ซึ่งเกาะต่าง ๆ ก็จะตั้งอยู่ในเขตภูเขาไฟวงแหวนไฟแปซิฟิก และรอยแยก Boso Triple Junction จึงทำให้ประเทศญี่ปุ่นยังคงมีภูเขาไฟที่มีพลังอยู่มากถึง 108 ลูก และมักประสบกับภัยพิบัติคลื่นสึนามิและแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง โดยดัชนีความเสี่ยงโลกปี 2556 ก็ได้จัดให้ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงภัยธรรมชาติสูงสุดเป็นอันดับที่ 15 ของโลก
เนื่องจากสภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นนั้นเป็นป่าไม้และภูเขาที่ไม่เหมาะสำหรับการเพาะปลูกและอยู่อาศัยรวมไปถึงการทำอุตสาหกรรม จึงทำให้ประชากรส่วนใหญ่ตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณชายฝั่งเป็นหลัก โดยแบ่งเขตการปกครองออกเป็นทั้งหมด 47 จังหวัด ใน 8 ภูมิภาค กว่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมดในญี่ปุ่นก็จะอาศัยอยู่ในเขต 3 เมืองใหญ่ ได้แก่ โตเกียว โอซาก้า และนาโกย่า ซึ่งประเทศญี่ปุ่นนั้นถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรและความหนาแน่นของประชากรมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก เป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและมีประวัติศาสตร์โบราณที่ยาวนาน และด้วยความที่มีเมืองใหญ่เป็นจำนวนมากจึงทำให้แต่ละเมืองของญี่ปุ่นนั้นมีความแตกต่างกันทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสำเนียงของภาษา
ทางด้านการท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็ต้องบอกว่ารัฐบาลญี่ปุ่นนั้นก็ได้ส่งเสริมในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวกันอยู่ไม่น้อย โดยมีมาตรการยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยวให้กับประเทศเป้าหมายรวมไปถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน ทำให้ความนิยมไปทัวร์ญี่ปุ่นสำหรับคนไทยนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ก็ยังมีพวกกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและโปรโมชั่นต่าง ๆ ในธุรกิจท่องเที่ยวญี่ปุ่นอีกมากมาย จึงทำให้หลายคนเลือกที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นกันอยู่บ่อยครั้ง บางคนก็เลือกที่จะไปทัวร์ญี่ปุ่นแบบเก็บให้ทั่วครบทุกภูมิภาคกันเลยทีเดียว
ทัวร์ญี่ปุ่นแนะนำตามเมืองยอดนิยม

1. โอซาก้า

เป็นเมืองอันดับต้น ๆ ที่หลายคนเลือกในการมาทัวร์ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกกันเลยก็ว่าได้ ซึ่งโอซาก้าก็เป็นเมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ เป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งในด้านการค้าและวัฒนธรรม จึงเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นปราสาทโอซาก้าอันโด่งดัง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอย่าง Kaiyukan สวนลอยน้ำ Universal Studio เป็นต้น ที่สำคัญเลยก็คือเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารอร่อยราคาย่อมเยาอยู่ทั่วทุกมุมเมือง และถ้าใครไปเที่ยวญี่ปุ่นที่โอซาก้าในช่วงประมาณกลางเดือนมีนาคมถึงเมษายนก็จะได้ชมซากุระกันที่เมืองนี้อีกด้วย
2. ฮอกไกโด

ใครมาทัวร์ญี่ปุ่นอย่าพลาดที่จะเลือกมาเที่ยวฮอกไกโด ซึ่งเมืองนี้ก็ถือได้ว่าเป็นจังหวัดและเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น เป็นเขตที่มีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นและภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา โดยเขตที่ราบลุ่มซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ก็จะเป็นที่เมืองซัปโปโร ฮอกไกโดก็เป็นเกาะที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม จึงทำให้หลายคนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นเลือกมาพักตากอากาศกันที่เมืองนี้ โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากมายไม่ว่าจะเป็น ป้อมโงเรียวกาคุ หรือ ป้อมดาว 5 แฉก จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ทุ่งดอกไม้และลานสกีฟูราโน่ บ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ โรงงานช็อกโกแลต Shiroi Koibito พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร เป็นต้น
3. โตเกียว

เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นเป้าหมายยอดฮิตที่หลายคนเลือกมาเที่ยวญี่ปุ่นกันที่เมืองนี้ เมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมและสังคมเมืองที่มาบรรจบกันระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและวัฒนธรรมตะวันออก จึงได้รับฉายาว่า “East meets West” ซึ่งถ้าหากใครเลือกมาเที่ยวญี่ปุ่นกันที่โตเกียวก็ต้องบอกว่าคุ้มค่าแบบสุด ๆ เพราะเป็นเมืองที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมและเทคโนโลยีอันทันสมัยล่าสุดของโลกในที่เดียวกัน และยังเต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งรวมไปถึงแฟชั่นมากมายที่รอให้คุณได้มาสัมผัสด้วยตนเองเมื่อมาทัวร์ญี่ปุ่น
4. ฟุกุโอกะ

เมืองที่ใหญ่มากที่สุดของเกาะคิวชูที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ วัดและศาลเจ้า แหล่งช้อปปิ้ง และของกินมากมาย เป็นเมืองที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นเมืองน่าอยู่เป็นอันดับที่ 2 ของโลกจากนิตยสาร Monocle ในปี 2013 และยังถือได้ว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับ 6 ของญี่ปุ่น โดยเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มากและมีคุณภาพการใช้ชีวิตที่สูง ใครที่มาทัวร์ญี่ปุ่นโดยเลือกที่จะมาฟุกุโอกะก็ไม่ควรพลาดที่จะไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น แผงขายอาหารในนากาซุ ปราสาทฟุกุโอกะ ศาลเจ้าฮาโกซากิ ย่านเท็นจิน หรือจะพักผ่อนชิล ๆ ชมวิวสวย ๆ ที่ชายหาดกับฟุกุโอกะทาวเวอร์ก็ได้
5. เกียวโต

อยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบสัมผัสกับศิลปะวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นกันแบบถึงแก่น ราวกับได้ย้อนเวลากลับไปยังอดีตด้วยตนเอง ขอแนะนำให้เลือกมาทัวร์ญี่ปุ่นที่เมืองเกียวโต เมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางศาสนาถึงกว่า 2,000 แห่ง เป็นสถานที่ตั้งของวัดที่มีชื่อเสียงหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น วัดคิโยมิซุ วัดคิงกากุ (วัดศาลาทอง), วัดกิงกากุ (วัดศาลาเงิน) วัดเรียวอังที่มีสวนหินที่โด่งดัง รวมไปถึงศาลเจ้าเฮอัง ศาลเจ้าคาโมะ เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังสามารถเข้าไปเยี่ยมชมย่านที่มีความโดดเด่นอย่างเช่น อาราชิยามะ ย่านกิออน ย่านเกอิชา รับรองได้ว่าจะเป็นการทัวร์ญี่ปุ่นที่ทำให้คุณได้เข้าถึงความเป็นญี่ปุ่นในยุคเก่าได้อย่างแท้จริงเลยทีเดียว
6. นารา

เป็นอีกเมืองที่เมื่อมาทัวร์ญี่ปุ่นแล้วห้ามพลาด อดีตเมืองหลวงของญี่ปุ่นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสิ่งก่อสร้างโบราณมากมายไม่ว่าจะเป็นโบราณสถานต่าง ๆ วัดและศาลเจ้า รวมไปถึงอดีตพระราชวังหลวงอย่างพระราชวังเฮโจ จึงทำให้กลายเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โดยมีสถานที่สำคัญและสถานที่ท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นภูเขาแห่งเปลวเพลิงวากากูซะ หลวงพ่อโตแห่งวัดโทได วัดยากูชิ วิหารวัดโทได ศาลเจ้าคาซูงะ และอย่าลืมไปเยี่ยมชมน้องกวางในอุทยานนารากันด้วย
7. ชิซูโอกะ

มาทัวร์ญี่ปุ่นทั้งทีอย่าลืมมาเยี่ยมชมที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิอันมีชื่อเสียง ซึ่งเมืองนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นเมืองเขตพักตากอากาศชื่อดังของญี่ปุ่นเนื่องจากมีพื้นที่ยาวตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากนี้ก็ยังเป็นแหล่งปลูกชาเขียวที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งเมืองนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว ซึ่งนอกจากจะมีภูเขาไฟฟูจิและแหล่งปลูกชาอันขึ้นชื่อแล้วก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย อย่างเช่น สวนดอกไม้ฮามามัตสึ ชมดอกซากุระที่คาวาซุ ชมดาวที่หาดมินามิอิซุยูมิกาฮามะ เยี่ยมชมปราสาทคาเคกาวะ เที่ยวพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ไปย้อนวัยกันที่ Izu Teddy Bear Museum และอย่าลืมแวะชิมกุ้งซากุระแบบสด ๆ กันได้ที่อ่าวซุรุกะ
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำ

ใครที่จะมาเที่ยวญี่ปุ่นตามเทศกาลต่าง ๆ ที่จัดขึ้น เราก็ได้ทำการรวบรวมเทศกาลสำหรับคนที่อยากเที่ยวญี่ปุ่นตามงานเทศกาลต่าง ๆ มาไว้ให้ครบทั้งปีกันไปเลย
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนมกราคม
ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นในเดือนมกราคมก็อย่าพลาดเทศกาลวันปีใหม่ "โชกัตสึ" งานเทศกาลเก่าแก่มากที่สุดของญี่ปุ่น โดยจะมีการจัดงานเทศกาลต้อนรับเทพโทชิกามิซามะ (เทพประจำปี) และยังมีงานเทศกาลที่ศาลเจ้าเอบิสุซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 9-11 มกราคมของทุกปีอีกด้วย
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนกุมภาพันธ์
สำหรับใครที่เลือกมาทัวร์ญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ต้องไม่พลาดเทศกาลสุดยิ่งใหญ่แห่งปีอย่างเทศกาลหิมะซัปโปโร ที่ในงานนี้ก็จะมีการประกวดรูปแกะสลักหิมะจากนานาประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ก็ยังมีเทศกาลปาถั่ว เทศกาลแห่โคมไฟของศาลเจ้า Kasuga Taisha เทศกาลกระท่อมหิมะแห่งโยโคะเทะ และเทศกาลประจำปีวัดไซไดจิที่จังหวัดโอะคะยะมะ
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนมีนาคม
มาเที่ยวญี่ปุ่นเดือนมีนาคมแนะนำให้ไปเสริมสิริมงคลในเทศกาลโอะมิสึโทะริ หรือเทศกาลโคมไฟซึ่งจัดขึ้นในจังหวัดนารา โดยในเดือนนี้ก็ยังมีเทศกาลวันเด็กผู้หญิง ฮินะ มัตสึริ ซึ่งจัดขึ้นทั่วประเทศอีกด้วย
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนเมษายน
เทศกาลในเดือนเมษายนสำหรับใครที่เลือกมาทัวร์ญี่ปุ่นในช่วงนี้ก็เริ่มกันที่เทศกาลถวายดอกไม้ ฮะนะมัตสึริ ที่จัดกันทั่วประเทศ โดยภายในวัดต่าง ๆ ก็จะตกแต่งด้วยดอกไม้ และมีพิธีชงชาเขียว ในช่วงกลางเดือนก็จะมีเทศกาลทาคายามะ หรือเทศกาลซันโนของศาลเจ้าฮิเอะในเมืองเมืองทาคายามะที่ตื่นตาตื่นใจด้วยขบวนรถแห่ศาลเจ้าสุดยิ่งใหญ่ และก็ยังมีเทศกาลแห่ศาลเจ้าฤดูใบไม้ผลิ ยะโยอิ-มัตสึริ ที่เมืองนิกโก้ที่ตกแต่งขบวนแห่อย่างสวยงามด้วยดอกไม้อันเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิที่มาเยือน
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนพฤษภาคม
ใครที่เลือกมาญี่ปุ่นในช่วงเดือนนี้ก็มีเทศกาลขบวนแห่เทพเจ้าบนหลังม้า จังหวัดฟุกุโอกะ มาให้ไปร่วมสัมผัสบรรยากาศชมขบวนพาเหรดรอบเมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจ หรือจะเลือกไปชมเทศกาลแข่งว่าวที่เมืองฮามามัตสึ พร้อมชมขบวนแห่ที่สวยงามในตอนกลางคืน โดยในเดือนนี้ก็ยังมีเทศกาลวันเด็กผู้ชายที่แต่ละบ้านจะมีการประดับธงรูปปลาคาร์ฟเอาไว้ และยังมีเทศกาลใหญ่ของเมืองเกียวโตอย่างเทศกาลอาโออิ ขบวนแห่สุดยิ่งใหญ่ที่ผู้เข้าร่วมขบวนจะแต่งกายด้วยชุดโบราณอันงดงามผ่านถนนสายหลักของเกียวโต นอกจากนี้ก็ยังมีเทศกาลใหญ่ของศาลเจ้าโทโชกุที่เมืองนิกโก้ เทศกาลล่องเรือ มิฟุเนะ-มัตสึริ ของเกียวโต และในช่วงปลายเดือนก็มีเทศกาลแห่ศาลเจ้าที่วัดอาซากุสะ หรือเทศกาลซันจะ มัตสึริ ที่กรุงโตเกียวด้วย
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนมิถุนายน
หากมาญี่ปุ่นในช่วงเดือนมิถุนายนก็จะได้เจอกับเทศกาลซันโน-มัตสึริ ซึ่งเป็นเทศกาลแห่ศาลเจ้าฮิเอะที่กรุงโตเกียว ซึ่งภายในงานก็จะมีขบวนแห่ศักดิ์สิทธิ์พร้อมทั้งประเพณีต่างๆของญี่ปุ่นอย่างเช่นการจัดดอกไม้ พิธีกรรมเกี่ยวกับชาเขียว และพิธีชำระล้างสิ่งอัปมงคล นอกจากนี้ก็ยังมีเทศกาลม้าที่เมืองเมืองทากิซาวา และโมริโอกะ อีกด้วย
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนกรกฎาคม
เดือนนี้บอกได้เลยว่ามีเทศกาลมากมายเอาไว้ให้สำหรับใครที่เลือกมาญี่ปุ่นในช่วงนี้แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลดวงดาวทานาบาตะที่จัดขึ้นทั่วประเทศ เทศกาลไฟที่ศาลเจ้านาชิ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 เทศกาลไฟ ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่เมืองฟุกุโอกะก็มีเทศกาลใหญ่ของศาลเจ้าคูชิดะ สำหรับที่เมืองเกียวโตก็จะมีเทศกาลใหญ่ของศาลเจ้ายาซากะที่เต็มไปด้วยผู้ร่วมขบวนแห่สวมใส่เครื่องแต่งกายโบราณวนรอบเมือง ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมก็จะมีเทศกาลดนตรีศาลเจ้าอิตสึกูชิมะที่จังหวัดฮิโรชิมะ รวมไปถึงเทศกาลฤดูร้อนศาลเจ้าเทนมานกุแห่งโอซาก้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งใน 3 เทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนสิงหาคม
สำหรับในเดือนนี้คนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นก็สามารถเข้าชมเทศกาลหุ่นโคมไฟได้ที่จังหวัดอาโอโมริ เทศกาลแห่โคมไฟคันโตที่จังหวัดอาคิตะ ชมขบวนฟ้อนรำของชาวเมืองที่สวมหมวกฟางติดดอกไม้เทียมสุดยิ่งใหญ่กว่าหมื่นคนในเทศกาลหน้าร้อนฮานะกาสะ และเพลิดเพลินไปกับเทศกาลระบำงานบงโอะโดะริ จังหวัดโทคุชิมะ
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนกันยายน
ทัวร์ญี่ปุ่นในเดือนกันยายนก็แนะนำเทศกาลร่ายรำโบราณโทยามะ ซึ่งเป็นเทศกาลประจำปีที่ใหญ่ที่สุดของโทยามะ นอกจากนี้ก็ยังมีเทศกาลแห่เกี๊ยวดันจิริที่ยิ่งใหญ่และหรูหราที่สุดของญี่ปุ่นบริเวณปราสาทคิชิวะดะ โอซาก้า เทศกาลขี่ม้ายิงธนูซึ่งเป็นพิธีกรรมบนหลังม้าอันหาดูได้ยากและมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานที่เมืองคามาคุระ และเทศกาลโอฮาระ ฮาดากะ มัตสึริ เทศกาลที่กลุ่มชายฉกรรจ์เปลือยท่อนบนแบกเกี้ยวขึ้นบ่าแล้วลงไปในทะเล ที่เมืองอิสุมิ จังหวัดชิบะ
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนตุลาคม
ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเดือนนี้ก็จะได้พบกับเทศกาลนางาซากิคุนจิ ซึ่งเป็นเทศกาลประจำฤดูใบไม้ร่วงขนาดใหญ่ของศาลเจ้าซุวะ จังหวัดนางาซากิ เทศกาลทาคายามะในฤดูใบไม้ร่วงหรือเทศกาลยะฮะตะ ที่ศาลเจ้ายะฮะตะ เมืองทาคายามะ ชมขบวนแห่สุดยิ่งใหญ่ในชุดซามูไรกับเทศกาลเมืองนาโกย่า ชมงานเทศกาลดอกเบญจมาศศาลเจ้าเมจิ ที่กรุงโตเกียว เทศกาลใหญ่ฤดูใบไม้ร่วงของศาลเจ้าโทโชกุ ที่เมืองนิกโก้ ย้อนยุคไปกับเทศกาลศาลเจ้าเฮอันเกียวโตซึ่งเป็น 1 ใน 3 เทศกาลใหญ่ของเกียวโต และยังมีเทศกาลไฟที่เมืองเดียวกันอีกด้วย
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนพฤศจิกายน
สำหรับคนที่มาญี่ปุ่นในช่วงเดือนนี้ก็จะได้พบกับงานเทศกาลในฤดูใบไม้ร่วงของศาลเจ้าคะระสึ ในจังหวัดซากะ ซึ่งได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้โดย UNESCO โดดเด่นด้วยขบวนแห่ปลาสีแดงขนาดใหญ่ เทศกาลขบวนแห่เจ้าเมือง ฮะโกะเนะ ไดเมียว เกียวเรสึ จังหวัดคะนะกะวะ และเทศกาล ชิจิ โกะ ซัง-มัตสึริ ซึ่งเป็นเทศกาลฉลองอายุของเด็กชายหญิงที่มีอายุครบ 3 ปี 5 ปี และ 7 ปี ซึ่งจัดขึ้นทั่วประเทศ
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนธันวาคม
มาทัวร์ญี่ปุ่นช่วงปลายปีเดือนธันวาคมก็แนะนำให้ไปชมขบวนแห่สุดอลังการในเทศกาลศาลเจ้าชิชิบุ จังหวัดไซตามะ ชมการแสดงโบราณและขบวนแห่ย้อนยุคพร้อมการขับร้องและเต้นรำแบบโบราณที่ราชการศาลเจ้าคะซุงะ เมืองนารา โดยในช่วงกลางเดือนก็จะมีเทศกาลไม้ตีลูกขนไก่โบราณ ฮะโงะตะ อิชิ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในโตเกียว
สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น ยอดนิยม

ใครที่มาท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นก็ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของญี่ปุ่นที่ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นต่างก็ต้องมาแวะเช็คอินกัน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง
1. ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ Tokyo Tower

หอคอยขนาดใหญ่สีแดงสลับขาวอันโดดเด่นซึ่งตั้งอยู่ในเขตมินาโตะ กรุงโตเกียว มีความสูงทั้งสิ้น 332.6 เมตร (1,091 ฟุต) ซึ่งโดยหลักแล้วโตเกียวทาวเวอร์ก็จะเป็นหอคอยที่สร้างเอาไว้เพื่อใช้ส่งสัญญาณคลื่นวิทยุโทรทัศน์ต่าง ๆ และใช้เป็นหอสังเกตการณ์ แต่ด้วยความโดดเด่นของหอคอยแห่งนี้จึงทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นยอดนิยมของกรุงโตเกียวด้วยเช่นกัน บริเวณหอคอยจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ด้านล่างสุดเป็นอาคารสูง 4 ชั้นซึ่งตั้งอยู่ใต้หอคอยโดยตรง มีพิพิธภัณฑ์ ภัตตาคาร และร้านค้าอยู่ภายในตัวอาคาร อีก 2 ส่วนที่เหลือจะเป็นจุดสำหรับชมทัศนียภาพของหอคอยซึ่งมีความสูงอยู่ที่ 150 เมตร และ 250 เมตร ตามลำดับ
พิกัดท่องเที่ยว : 4 Chome-2-8 Shibakoen, Minato City, Tokyo 105-0011, Japan
2. ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่พระราชวังอิมพีเรียล

บอกเลยว่ามาญี่ปุ่นทั้งทีห้ามพลาดที่จะมาเที่ยวชมสัมผัสบรรยากาศที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์และกลิ่นอายอันสูงส่งของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่ประทับหลักของจักรพรรดิญี่ปุ่นแห่งนี้ โดยพระราชวังอิมพีเรียลหรือพระราชวังหลวงโตเกียวก็จะเป็นพื้นที่คล้ายสวนขนาดใหญ่ที่อยู่ในเขตชิโยดะ กรุงโตเกียว สร้างขึ้นบนพื้นที่โดยรวมของปราสาทเอโดะอันเป็นที่อยู่ของโชกุนจากตระกูลโทกูงาวะ ประกอบไปด้วยพระราชมณเฑียร ตำหนักของราชวงศ์ สำนักพระราชวังหลวง พิพิธภัณฑ์ของสะสมในพระองค์ และอุทยานต่าง ๆ
พิกัดท่องเที่ยว : 1-1 Chiyoda, Chiyoda City, Tokyo 100-8111, Japan
3. ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ภูเขาไฟฟูจิ

เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นต่างก็ต้องแวะมาเช็คอินหรือถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิ หรือที่เรียกกันว่า “ฟูจิซัง” กันสักครั้ง ซึ่งภูเขาไฟฟูจินี้ก็เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีความสูงราว 3,776 เมตร (12,388 ฟุต) ตั้งอยู่ที่จังหวัดยามานาชิทางตะวันตกของโตเกียว พื้นที่โดยรอบภูเขาไฟฟูจิก็จะประกอบไปด้วย ทะเลสาบฟูจิทั้งห้า อุทยานแห่งชาติฟูจิ-ฮาโกเนะ-อิซุ และน้ำตกชิราอิโตะ จัดเป็นภูเขาไฟที่มีโอกาสปะทุต่ำ ซึ่งถ้าหากวันไหนอากาศแจ่มใสก็สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากกรุงโตเกียวได้ (อ่านบทความ : 10 จุดถ่ายรูปคู่กับภูเขาไฟูจิ ภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น)
พิกัดท่องเที่ยว : Fuji-Hakone-Izu National Park
4. ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ย่านชินจูกุ

มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีอย่าลืมไปสัมผัสกับย่านชุมชนระดับแนวหน้าของโตเกียวที่สุดแสนคึกคักแห่งนี้ ซึ่งย่านชินจูกุก็เรียกได้ว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่อของโตเกียวเพราะเต็มไปด้วย Shopping Mall ขนาดใหญ่ ร้านขายส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่สุดในญี่ปุ่น แหล่งรวมของร้านกินดื่มและร้านอาหารมากมายให้เราได้เลือกได้ตามงบประมาณและความต้องการ ซึ่งนอกจากแหล่งช้อปปิ้ง ร้านค้า และของกินแล้ว ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อในย่านชินจูกุได้แก่ศาลาว่าการกรุงโตเกียว และสวนชินจูกุเกียวเอ็นอีกด้วย
พิกัดท่องเที่ยว : Shinjuku City Tokyo, Japan
5. ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ปราสาทฮิเมจิ

อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำหรับใครที่มาญี่ปุ่นจะต้องแวะมาเยี่ยมชมปราสาทเก่าแก่แห่งนี้ เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ตามลักษณะสถาปัตยกรรมของปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ถือได้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2 และแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น จัดเป็น 1 ใน 3 ของปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยชาวญี่ปุ่นก็จะเรียกปราสาทแห่งนี้ว่าประสาทนกกระสาขาว หรือ ฮากุระโจ อันเนื่องมาจากสีภายนอกของปราสาทที่เป็นสีขาวสว่างนั่นเอง
พิกัดท่องเที่ยว : 68 Honmachi, Himeji, Hyogo 670-0012, Japan
6. ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ย่านชิบูย่า

แหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่ออีกหนึ่งแห่งของกรุงโตเกียวที่บอกได้เลยว่าใครมาเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นต้องห้ามพลาด เพราะเป็นย่านที่คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นยุคใหม่ได้อย่างใกล้ชิด โดยมีจุดแลนด์มาร์คที่โดดเด่นก็คือ 5 แยกชิบูย่า ทางม้าลายที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนเดินสัญจรไปมาตลอดทั้งวัน ซึ่งปรากฏอยู่ในฉากภาพยนตร์และซีรี่ส์ต่าง ๆ มากมาย น่าจะมีก็ยังมีแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นทันสมัย และอย่าลืมไปเยี่ยมชมเช็คอินกับรูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ สุนัขยอดกตัญญูที่ตั้งอยู่ตรงทางออกสถานีชิบูย่ากันด้วย
พิกัดท่องเที่ยว : Shibuya City Tokyo, Japan
7. ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่สวนสนุก Universal Studios Japan

มาญี่ปุ่นต้องไม่พลาดที่จะมาสวนสนุกแห่งแรกในเอเชียของ Universal Studios แห่งนี้ สวนสนุกขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่น ภายในสวนสนุกก็จะแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ ตามเมืองและภาพยนตร์ชื่อดังของ Universal Studios พร้อมด้วยเครื่องเล่นแสนสนุกสุดมันส์ โชว์ต่าง ๆ และกิจกรรมให้ร่วมสนุกรับของรางวัลกันอีกมากมาย ถ้าใครมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วมายังสวนสนุกแห่งนี้แล้วอยากสนุกสะใจไปกับเครื่องเล่นแบบเต็มอิ่มก็แนะนำให้ซื้อตั๋วแบบ Pass รับรองได้ว่าสนุกสุดเหวี่ยงกันแบบสุดคุ้มแน่นอน
พิกัดท่องเที่ยว : 2 Chome-1-33 Sakurajima, Konohana Ward, Osaka, 554-0031, Japan
8. ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่วัดโทไดจิ (Todaiji Temple)

วัดพุทธซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนารา โดยมีหนึ่งในสมบัติประจำชาติอย่างศาลาหลวงพ่อโต (ไดบุตสึเด็ง) อาคารไม้ขนาดใหญ่อันเป็นที่ประดิษฐานขอพระพุทธรูปไดบุตสึขนาดใหญ่ ซึ่งวัดแห่งนี้ก็ยังเป็นศูนย์กลางของโรงเรียนศาสนาในนิกายเคงง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
พิกัดท่องเที่ยว : 406-1 Zoshicho, Nara, 630-8211, Japan
9. ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ Tokyo Disneyland

เป็นอีกที่หนึ่งสถานที่ซึ่งไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มาเที่ยวญี่ปุ่น เพราะที่นี่คือสวนสนุกระดับโลกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดิสนีย์แลนด์แห่งแรกในแคลิฟอร์เนียและ Magic Kingdom ที่ Florida เป็นสวนสนุกแห่งแรกที่สร้างขึ้นนอกเหนือจากในสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ติดกับโตเกียวและตั้งอยู่ใน Tokyo Disney Resort เป็นสวนสนุกอีกแห่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ให้คุณได้เข้ามาสัมผัสดินแดนแห่งเวทมนต์และสนุกสุดเหวี่ยงไปกับเครื่องเล่นต่าง ๆ พร้อมกับตัวละครมากมายจาก Disney
พิกัดท่องเที่ยว : 1-1 Maihama, Urayasu, Chiba 279-0031, Japan
10. ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ฟาร์มโทมิตะ

เป็นเมืองจุดหมายปลายทางสำหรับใครที่มาญี่ปุ่นแล้วอยากชมความสวยงามของทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ซึ่งฟาร์มแห่งนี้ก็ตั้งอยู่ในเมืองฟูราโนะ จังหวัดฮอกไกโด โดยช่วงดอกลาเวนเดอร์ของฟาร์มแห่งนี้ก็จะเปิดให้เข้าชมในช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน แต่ถ้าอยากได้ความงดงามของทุ่งดอกลาเวนเดอร์แบบตระการตาก็แนะนำให้ไปช่วงเดือนกรกฎาคม โดยทุ่งดอกลาเวนเดอร์นี้เดิมทีก็จะเป็นการปลูกเอาไว้เพื่อใช้ทำน้ำมันหอมระเหย จากนั้นถึงได้มีการพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวจนกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับใครที่มาทัวร์ญี่ปุ่นกันอีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
พิกัดท่องเที่ยว : 15号 Kisenkita, Nakafurano, Sorachi District, Hokkaido 071-0704, Japan
11. ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ศาลเจ้าจิ้งจอกแดง (Fushimi Inari Shrine)

เป็นศาลเจ้าอันโด่งดังแห่งเกียวโตที่มีจุดเด่นอยู่ที่เสาประตูสีแดงที่เรียงรายกันอยู่ด้านหลังศาลเจ้าเป็นจำนวนกว่าหลายพันต้นตามทางเดินทั่วทั้งภูเขาอินาริ โดยศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกแห่งนี้ก็คือศาลเจ้าชินโต (Shinto) เป็นศาลเจ้าที่มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นงดงามและยังขึ้นชื่อแต่เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของเทพอินาริที่เชื่อกันว่ามีรูปลักษณ์เป็นเทพเจ้าจิ้งจอก นอกจากนี้ก็ยังเป็นสถานที่ขึ้นชื่อในการชมใบไม้เปลี่ยนสี ดื่มด่ำกับวิวของยอดเขา รวมไปถึงยังมีร้านค้าขายอาหารสตรีทฟู้ดและของฝากอีกด้วย
พิกัดท่องเที่ยว : Fukakusa Yabunouchicho, Fushimi Ward, Kyoto, 612-0882, Japan
12. ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่หมู่บ้านหลังคาโบราณ ชิราคาวะโกะ (Shirakawa-go)

หากมาเที่ยวญี่ปุ่นขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมชมกับหมู่บ้านมรดกโลกแห่งนี้ หมู่บ้านที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ สัมผัสกับสถาปัตยกรรมบ้านหลังคาทรงกัชโชสุคุริที่มีมาแต่โบราณและวิถีชีวิตชนบทที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีต ซึ่งถ้าหากใครอยากสัมผัสบรรยากาศโรแมนติกที่กลมกลืนระหว่างวิถีชีวิตดั้งเดิมและธรรมชาติที่ปกคลุมไปด้วยหิมะก็ขอแนะนำให้ลองค้างคืนที่หมู่บ้านกันดูสักคืน เพราะบอกได้เลยว่าทิวทัศน์ยามค่ำคืนของหมู่บ้านแห่งนี้งดงามราวกับหลุดมาจากภาพวาดกันเลยทีเดียว
พิกัดท่องเที่ยว : Ono District, Gifu, Japan
13. ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)

จุดเช็คอินยอดนิยมสำหรับคนที่มาจากญี่ปุ่นคงหนีไม่พ้นย่านโดทงโบริแห่งนี้ ย่านการค้ายอดนิยมใจกลางเมืองโอซาก้า แหล่งที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าแบรนด์ดังจากทั่วโลกและร้านอาหารอร่อยมากมาย นอกจากนี้ก็ยังมีในส่วนของร้านค้าต่าง ๆ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ และโรงแรม ย่านที่คึกคักหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวและผู้คนตลอดทั้งวันโดยเฉพาะยามค่ำคืน จุดเด่นของย่านนี้ก็คือป้ายกูลิโกะขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสะพานเอบิสุ ที่ใครมาถึงแล้วก็ไม่พลาดที่จะต้องเช็คอินหรือถ่ายภาพเอาไว้เป็นที่ระลึก
พิกัดท่องเที่ยว : 1 Chome Dotonbori, Chuo Ward, Osaka, 542-0071, Japan
14. ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่สวนกวางนารา (Nara Park)

มาทัวร์ญี่ปุ่นก็อย่าลืมแวะเที่ยวหาน้องกวางที่สวนกวางนารากันสักหน่อย สถานที่แห่งนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น จุดเด่นของสวนสาธารณะแห่งนี้ก็คงหนีไม่พ้นน้องกวางทั้งหลายที่มีอยู่กว่า 1,200 ตัว เดินไปมาชิล ๆ ให้เราได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดภายในสวนสาธารณะ และสามารถให้อาหารกวางได้โดยจะมีจุดจำหน่ายของโปรดของน้องกวางอย่างขนมปังอบกรอบ “เซมเบ้” ให้เราได้ซื้อมาป้อนน้องกวางกันอยู่เป็นระยะภายในสวนสาธารณะ
พิกัดท่องเที่ยว : Nara, Japan
15. ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่สกีรีสอร์ท ชิงะ โคเงน

หากใครมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วต้องการมาสัมผัสกับหิมะและเล่นสกีก็ไม่ควรพลาดพื้นที่เล่นสกีที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นแห่งนี้ โดยสกีรีสอร์ท ชิงะ โคเงน ก็เป็นกลุ่มสกีรีสอร์ท 18 แห่งบนพื้นที่เล่นสกีขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่บริเวณที่ราบสูงของจังหวัดนากาโนะ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติชิกะโคเก็นที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก มีพื้นที่เล่นสกีอย่างหลากหลายตามระดับความสูง ซึ่งนอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของลานสกีและวิวทิวทัศน์อันสวยงามแล้ว ก็ยังมีสวนลิงหิมะจิโกคุดานิ รวมไปถึงออนเซ็นต่าง ๆ ให้เลือกใช้บริการกันอีกหลายแห่ง
พิกัดท่องเที่ยว : 7148 Hirao, Yamanochi, Shimotakai District, Nagano 381-0401, Japan
(อ่านบทความ : 20 สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นแนะนำ ที่คุณจะต้องตกหลุมรักแน่นอน)
สภาพอากาศและฤดูกาลที่ญี่ปุ่น

ต้องบอกว่าการเลือกมาทัวร์ญี่ปุ่นในฤดูกาลที่แตกต่างกันก็จะทำให้ได้รับประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นที่แตกต่างกันออกไป โดยสภาพอากาศของญี่ปุ่นนั้นก็จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว
- ฤดูใบไม้ผลิ อยู่ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม อุณหภูมิใช้งานโดยประมาณอยู่ที่ 13 - 25 องศาเซลเซียส เป็นช่วงที่มีสภาพอากาศกำลังดี ท้องฟ้าแจ่มใส ลมพัดเย็นสบาย เต็มเปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวาของพืชพรรณ ในฤดูกาลนี้ก็จะมีเทศกาลชมดอกซากุระขึ้นในแต่ละพื้นที่
- ฤดูร้อน อยู่ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30 - 35 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนในญี่ปุ่นจะมีอากาศชื้นและทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ซึ่งจะมีช่วงฤดูฝนสั้น ๆ รวมอยู่ด้วยในช่วงต้นฤดูประมาณ 1 เดือน
- ฤดูใบไม้ร่วง อยู่ในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน อากาศจะเริ่มเย็นลง อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 22 - 27 องศาเซลเซียส โดยจะมีพายุไต้ฝุ่นเกิดขึ้นมากในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งในฤดูนี้ก็จะเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีและร่วงหล่นลงบนพื้น ให้วิวทิวทัศน์ที่มีสีสันสวยงาม
- ฤดูหนาว อยู่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ อากาศหนาวเย็นโดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0 - 7 องศาเซลเซียส มีหิมะตกมากทางภาคเหนือและฝั่งทะเลญี่ปุ่น ส่วนทางใต้และฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกจะมีอากาศอบอุ่นกว่า
แต่ทั้งนี้สภาพอากาศและฤดูกาลที่ญี่ปุ่นนั้นสำหรับใครที่วางแผนจะเดินทางมาทัวร์ญี่ปุ่นก็ต้องดูด้วยว่าจะเลือกมาเที่ยวญี่ปุ่นที่ภูมิภาคไหน เนื่องจากสภาพภูมิประเทศของญี่ปุ่นตั้งแต่ทิศเหนือมาจนถึงทิศใต้นั้นมีลักษณะเป็นแนวยาว จึงทำให้ส่วนใหญ่แล้วสภาพภูมิอากาศทางภาคเหนือก็จะอยู่ในเขตหนาวเย็น และทางภาคใต้ก็จะเป็นเขตอากาศร้อนและมีฝนตกมากในฤดูร้อน
เที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น ใช้งบเท่าไหร่

ในการเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นแต่ละครั้งก็ต้องบอกว่าสามารถจัดสรรงบประมาณมากน้อยได้ตามแต่แผนการเดินทางที่เราต้องการจะไปทัวร์ญี่ปุ่น ซึ่งโดยหลักแล้วงบที่ใช้สำหรับเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นก็จะมีดังนี้
- ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็จะขึ้นอยู่กับสายการบินและการเลือกที่นั่ง ซึ่งถ้าหากช่วงไหนเจอตั๋วเที่ยวญี่ปุ่นราคาถูกก็อาจจะสามารถซื้อได้ในราคาหลักพันปลาย ๆ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับสำหรับการทัวร์ญี่ปุ่นก็จะอยู่โดยเฉลี่ยที่ประมาณ 15,000 บาท
- ค่าที่พัก เราสามารถเลือกที่พักในงบประมาณที่เราตั้งไว้ ซึ่งก็มีตั้งแต่ที่พักราคาถูกอย่างพวกโฮสเทล เกสต์เฮ้าส์ โรงแรมแคปซูล บ้านเช่าอพาร์ทเม้นท์ ไปจนถึงโรงแรม ซึ่งถ้าเป็นที่พักราคาถูกก็จะอยู่ที่ประมาณ 400-600 บาทต่อคนต่อคืน แต่ถ้าหากอยากพักโรงแรมดีๆหน่อยก็จะอยู่ที่ราคาประมาณ 3,000 - 6,000 บาทต่อคืนสำหรับห้องพัก 2 คน
- ค่าอาหาร มีร้านอาหารให้เลือกกินมากมายเมื่อเรามาเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งก็มีตั้งแต่ร้านธรรมดาราคาถูกทั่วไปจนไปถึงร้านอาหารราคาแพง ซึ่งโดยปกติแล้วค่าอาหารการกินโดยเฉลี่ยแบบธรรมดาสำหรับการมาเที่ยวญี่ปุ่นก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 เยน หรือประมาณ 260 บาทต่อมื้อ หรือถ้าหากอยากประหยัดค่ากินสักหน่อยก็ลองเข้าไปดูในพวกร้านสะดวกซื้อได้
- ค่าเดินทางภายในประเทศ การเดินทางเมื่อไปทัวร์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่แล้วก็มักจะใช้รถไฟกันเพราะสะดวกและสามารถไปได้ทุกที่ โดยแนะนำให้ซื้อเป็นบัตร Pass หรือบัตรแบบ One Day เพราะสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า นอกจากรถไฟแล้วก็ยังมีบริการแท็กซี่และรถบัสด้วย แต่ถ้าระยะทางไม่ไกลแนะนำให้เลือกใช้วิธีเดินเท้าเพราะนอกจากจะประหยัดแล้วก็ยังสามารถเดินกินลมชมวิวไปเรื่อย ๆ เพื่อสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นในระหว่างทาง
- ค่าเข้าชมสถานที่ สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นบางแห่งก็จะมีการเก็บค่าเข้าชมด้วย ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้า วัด พิพิธภัณฑ์ สวนสนุก อาคารสถานที่ ซึ่งก็จะมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันเยน
- ค่าประกันภัยการเดินทาง ไม่เพียงแค่เฉพาะการทัวร์ญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะการเดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศทุกครั้งเราควรที่จะต้องทำประกันการเดินทางเอาไว้ด้วย ซึ่งตรงนี้ก็จะมีบริษัทประกันภัยการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศให้เลือกว่าจะไปทั้งหมดกี่วันและมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่เท่าไหร่ อย่างเช่นถ้าหากท่องเที่ยว 5 วันค่าประกันก็จะอยู่ที่หลักร้อยถึงหลักพันบาทต่อคนเท่านั้น
- ค่าช้อปปิ้ง งบประมาณในส่วนนี้สำหรับการเที่ยวญี่ปุ่นก็ต้องบอกว่าแล้วแต่คนกันเลยว่าจะเตรียมค่าช้อปปิ้งสำหรับการมาเที่ยวญี่ปุ่นกันมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าหากเน้นมาเที่ยวไม่เน้นซื้อของก็อาจจะเพียงแค่ซื้อของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดมือกลับบ้านไปแค่หลักพันบาทก็พอ แต่ถ้าหากหมายมั่นปั้นมือมาทัวร์ญี่ปุ่นเพื่อช้อปปิ้งกันโดยเฉพาะก็อาจจะต้องเตรียมเงินกันไว้ถึงหลักหมื่นหลักแสนเลยทีเดียว แต่อย่าลืมเช็คน้ำหนักกระเป๋าและภาษีที่ต้องจ่ายถ้าหากเดินทางกลับประเทศไทยกันด้วย
ดังนั้นโดยรวมแล้วถ้าหากคำนวณงบประมาณคร่าว ๆ สำหรับการเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นแบบสบาย ๆ สัก 4-5 วัน ก็จะอยู่ที่ประมาณ 30,000 - 40,000 บาทก็เพียงพอแล้ว
อาหารญี่ปุ่นแนะนำ ที่ต้องลอง

มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีสิ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือการกินอาหารญี่ปุ่นจากต้นตำรับแท้ ๆ ใครที่มาทัวร์ญี่ปุ่นแล้วอยากสัมผัสรสชาติของอาหารตามแบบฉบับดั้งเดิม ก็มีอาหารญี่ปุ่นแนะนำให้ลองดังนี้
1. ซูชิ/ซาชิมิ (Sushi/Sashimi)
เป็นเมนูที่หลายคนต้องไปกินต้นตำรับกันสักครั้งเมื่อไปทัวร์ญี่ปุ่น สำหรับซูชิและซาซิมินั้นก็เรียกได้ว่าเป็นเมนูยอดฮิตกันในบ้านเราอยู่แล้ว แต่การไปกินที่ญี่ปุ่นก็จะได้รสชาติและบรรยากาศต้นตำรับดั้งเดิมและวัตถุดิบที่สดใหม่กันแบบเต็ม ๆ คำ รับรองได้ว่าไม่เหมือนกับกินที่เมืองไทยอย่างแน่นอน
2. ราเมน/อูด้ง (Ramen/Udon)
เมนูเส้นยอดนิยมที่ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นต้องสั่งมากินกันสักชาม ซึ่งทั้ง 2 เมนูนี้ก็จะมีความแตกต่างกันอยู่ที่ลักษณะของเส้น และน้ำซุป โดยราเมนนั้นจะใช้เส้นบะหมี่ข้าวสาลี ใช้น้ำซุปที่ทำมาจากเนื้อสัตว์หรือน้ำสต๊อกจากปลา ในขณะที่อูด้งก็จะเป็นเส้นที่ทำมาจากแป้งบักวีตและแป้งสาลีผสมกัน ซึ่งเมื่อผสมแป้งบักวีตแล้วก็จะทำให้ตัวเส้นบะหมี่ออกเป็นสีเทาหรือสีน้ำตาล
3. เนื้อย่าง (Yakiniku)
สำหรับสายเนื้อที่มาเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นบอกเลยว่าเป็นเมนูที่ห้ามพลาด เนื้อวัวของญี่ปุ่นนั้นก็ขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อยที่มีความพิถีพิถันกันมาตั้งแต่วัตถุดิบและสภาพแวดล้อมที่ใช้เลี้ยงวัวกันแล้ว ดังนั้นมาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีใครที่ชื่นชอบกินเนื้อกันอยู่แล้วต้องไม่พลาดที่จะจัดเมนูเนื้อย่างกันสักหลายมื้อ ยิ่งถ้ามาเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นกันเป็นหมู่คณะรับรองว่ายิ่งกินเนื้อย่างกันแบบอร่อยและสนุกสนานอย่างแน่นอน
4. เทมปุระ (Tempura)
ถึงแม้ว่าบ้านเราก็จะหากินเทมปุระได้ไม่ยากแต่มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีจะไม่เข้าถึงเทมปุระจากต้นตำรับเห็นทีว่าจะมาไม่ถึงญี่ปุ่น เมนูทอดยอดนิยมที่ใช้วัตถุดิบหลายอย่างชุบแป้งทอดให้กรอบด้วยเทคนิคเฉพาะตัว ทีเด็ดที่สุดก็คือกุ้งเทมปุระนั่นเอง
5. มันปู (Kani miso)
เปลี่ยนจากมันปูจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดบ้านเรามาลองมันปูญี่ปุ่นที่นำมันปูปรุงรสมาใส่กระดองย่างไฟอ่อนหอมกรุ่น ให้รสชาติมันปูที่เข้มข้นหอมมันออกเค็มเล็กน้อยจากซอสที่ใช้ปรุง โรยต้นหอมญี่ปุ่นหรือไข่กุ้งสักเล็กน้อยแล้วกินเปล่า ๆ เพื่อดื่มด่ำซึมซาบกับรสชาติมันปูเน้น ๆ หรือจะนำมาคลุกกับข้าวสวยญี่ปุ่นร้อน ๆ งานนี้มีเติมข้าวอย่างแน่นอน
6. ข้าวหน้าปลาไหล (Kabayaki)
มาทัวร์ญี่ปุ่นทั้งทีอย่าลืมมาลิ้มรสข้าวหน้าปลาไหลสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่มีขายทั่วไปหาซื้อกินได้ไม่ยากและมีราคาไม่แพง เพราะเป็นเมนูที่ร้านไหน ๆ ต่างก็มีกันอยู่แล้ว ปลาไหลย่างชิ้นโต ๆ หอมหวานที่ปรุงรสด้วยซอสแบบเข้าเนื้อ กินกับข้าวสวยญี่ปุ่น ก็อิ่มอร่อยกันไปอีกมื้อ
7. หอยนางรม (Kaki)
มาลองกินหอยนางรมตามแบบฉบับญี่ปุ่นที่เป็นการนำเอาหอยนางรมสดตัวโต ๆ มากินแบบดิบๆเลยก็ดี หรือจะนำไปย่างก็ได้ ใครมาเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นแล้วอยากลิ้มลองหอยนางรมสดใหม่ ที่นี่ก็มีแหล่งผลิตหอยนางรมขึ้นชื่ออยู่ที่จังหวัดมิยางิ
8. สุกี้ยากี้/ ชาบู/ นาเบะ (Sukiyaki/ Shabu/ Nabe)
ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงอากาศหนาวถ้าหากอยากหาอะไรร้อน ๆ อร่อย ๆ พร้อมวัตถุดิบสดใหม่แนะนำว่าเมนูพวกหม้อไฟ ซึ่งแล้วแต่ใครจะถนัดหรือชอบแบบไหนมากกว่ากัน โดยทั้ง 3 เมนูนี้ก็จะเป็นการนำวัตถุดิบมาต้มใส่หม้อเหมือนกันแต่จะมีรายละเอียดในการกินแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย อย่างสุกี้ยากี้ก็จะเป็นการผัดเนื้อกับต้นหอมก่อนแล้วค่อยนำวัตถุดิบอื่นๆและน้ำซุปลงไปต้ม ในขณะที่นาเบะก็จะ เป็นการนำเอาวัตถุดิบทุกอย่างต้องลงไปในหม้อเดียวกันให้เดือดปุด ๆ ส่วนชาบูก็จะเป็นการนำเอาเนื้อจุ่มลงไปในน้ำซุปให้สุกแล้วกินกับน้ำจิ้ม
9. โซบะ (Soba)
ต้องบอกว่าเมนูนี้เป็นอาหารจิตวิญญาณของชาวโตเกียวกันเลยทีเดียว เป็นเมนูอาหารเส้นดั้งเดิมที่บอกเลยว่ามาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีต้องลิ้มลองรสชาติของต้นฉบับกันดูสักครั้ง โดยเส้นโซบะก็จะทำมาจากแป้งโซบะ กินได้ทั้งแบบร้อนและเย็น ซึ่งถ้าใครมาเที่ยวญี่ปุ่นก็บอกว่าเป็นเมนูที่หากินได้ไม่ยากเพราะมีขายกันอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะร้านโซบะแบบยืนกินที่มาทัวร์ญี่ปุ่นทั้งทีต้องลองกินกันดูสักครั้ง
10. ทงคัตสึ (Tonkatsu)
เมนูหมูทอดที่หลายคนชื่นชอบ อีกหนึ่งเมนูที่เป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นที่ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นก็อย่าลืมลองกินรสชาติต้นตำรับแท้ ๆ กันดูสักมื้อ กับหมูทอดหั่นชิ้นหนาที่นำมาคลุกเคล้ากับแป้งผสมกับไข่ชุบเกล็ดขนมปังทอดกรอบนอกนุ่มใน ซึ่งโดยทั่วไปก็จะกินคู่กับข้าวสวยญี่ปุ่นและซุปมิโซะ กะหล่ำปลีซอย โดยสามารถราดซอสเพื่อเพิ่มรสชาติได้ตามชอบ
11. โคร็อกเกะ (Korokke)
อีกหนึ่งเมนูของทอดยอดฮิตที่เมื่อไปเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นแล้วไม่ควรพลาด ซึ่งโคร็อกเกะนี้ก็มีจำหน่ายตามร้านเบเกอรี่ทั่วไป ส่วนใหญ่ก็นิยมกินกันเป็นอาหารว่างโดยจะเป็นการนำเอาเนื้อสัตว์ซื้อผักไปผสมกับมันบดแล้วปั้นให้ขึ้นรูปนำไปคลุกแป้งสาลี ไข่ เกล็ดขนมปัง แล้วนำไปทอดให้สุกเหลืองกรอบนอกนุ่มใน นิยมเสิร์ฟพร้อมซอสทงคัตสึและกะหล่ำปลีซอยเป็นเครื่องเคียง
12. ทาโกยากิ (Takoyaki)
ถึงแม้บ้านเราจะมีให้เลือกกินกันหลายร้านและหาซื้อได้ง่ายทั่วไปแต่เมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีจะพลาดทาโกยากิฉบับต้นตำรับไปได้อย่างไร ซึ่งทาโกะยากิที่ญี่ปุ่นก็มีขายอยู่ทั่วไปและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หาซื้อได้ง่ายทุกที่ไม่ว่าจะเป็นรถเข็นริมถนน ร้านอาหาร ภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงร้านสะดวกซื้อเลยทีเดียว
แหล่งช้อปปิ้งในญี่ปุ่น ยอดนิยม

แน่นอนว่าถ้าหากมาทัวร์ญี่ปุ่นทั้งทีงานช้อปปิ้งก็ต้องมา ซึ่งแหล่งช้อปปิ้งในญี่ปุ่นยอดนิยมส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่โตเกียว หากใครอยากแวะช้อปปิ้งซื้อของ เราก็มีแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในโตเกียวมาฝากกัน
1. ชินจูกุ

แหล่งช็อปปิ้งชื่อดังที่ใคร ๆ ก็รู้จักและไม่พลาดที่จะมาเยือนเมื่อมาทัวร์ญี่ปุ่น ต้องบอกแถบนี้เป็นศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าใหญ่ ศูนย์รวมแฟชั่น ของกิน ของฝาก ของที่ระลึกมากมาย มาให้ช้อปปิ้งกัน เรียกได้ว่ามาที่เดียวก็สามารถช้อปปิ้งได้ครบทุกสิ่งตามที่ต้องการ
พิกัดช้อปปิ้ง : Shinjuku City Tokyo, Japan
2. ฮาราจูกุ

วัยรุ่นต้องมาทางนี้ สำหรับย่านฮาราจูกุก็เป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นและวัยรุ่นที่ขึ้นชื่อของโตเกียวด้วยเช่นกัน ใครอยากสัมผัสวิถีชีวิตวัยรุ่นญี่ปุ่นเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นต้องไม่พลาดที่จะมาฮาราจูกุ และขอแอบกระซิบว่าย่านนี้ขึ้นชื่อเรื่องเครปเป็นอย่างมาก อย่าลืมลองซื้อมาชิมกันดู (อ่านบทความ : พาเที่ยว ฮาราจูกุ ไปช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่น ที่วัยรุ่นญี่ปุ่นนิยม)
พิกัดช้อปปิ้ง : Jingumae Shibuya City, Tokyo 150-0001 Japan
3. ชิบูย่า

ย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และ Landmark ยอดฮิตอย่าง 5 แยกชิบูย่า นอกจากจะ ช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าชื่อดังทั้งหลายแล้ว ก็ยังมีร้านให้นั่งกินกาแฟและของว่างชิล ๆ เพื่อชมบรรยากาศความคึกคักและมีชีวิตชีวาของชิบูย่ากันด้วย
พิกัดช้อปปิ้ง : Shibuya City Tokyo, Japan
4. โอโมเตะซันโด
ไปช้อปปิ้งของแบรนด์เนมเมื่อมาทัวร์ญี่ปุ่นต้องมาที่ย่านนี้ เพราะเป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังไม่ว่าจะเป็น Gucci, Louis Vuitton, Dior ซึ่งในย่านนี้ก็เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมี่ยมอย่าง Omotesando Hills และ Tokyo Plaza อีกด้วย ซึ่งนอกจากจะช้อปปิ้งของแบรนด์เนมกันแล้วก็ยังสามารถเดินเล่นเพื่อเพลิดเพลินไปกับการตกแต่งสถานที่ที่สวยงามและทันสมัยได้อีกด้วย
พิกัดช้อปปิ้ง : Omotesando, Tokyo. Japan
5. อาเมโยโกะ
มาทัวร์เที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีแล้วอยากช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าของฝากในราคาย่อมเยาขอแนะนำให้มากันที่ย่านนี้ มีร้านค้าเรียงรายไปตลอดสองฝั่งให้เราได้เลือกช็อปปิ้งกันมากกว่า 400 ร้าน เดินช็อปปิ้งกันได้เต็มที่แบบสบาย ๆ และยังต่อราคากันได้แบบสนุก ๆ อีกด้วย
พิกัดช้อปปิ้ง : 10 Ueno, Taito City, Tokyo 110-0005, Japan
โรงแรมและที่พักในญี่ปุ่นแนะนำ

แน่นอนว่าการเลือกมาเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นนั้นก็จะต้องมีการจองโรงแรมและที่พักกันด้วย ซึ่งทางที่ดีก็ควรเลือกโรงแรมที่สะดวกต่อการเดินทางตามแผนท่องเที่ยว ใกล้กับแหล่งของกินและแหล่งช้อปปิ้ง และมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ซึ่งต้องบอกว่าโรงแรมที่พักในญี่ปุ่นนั้นก็มีรูปแบบและราคาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราก็มีโรงแรมและที่พักในญี่ปุ่นที่น่าสนใจสำหรับใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นมาแนะนำกัน
1. โรงแรมแคปซูล (Capsule Hotel)
ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นกับเพื่อนกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ไม่กี่คน หรืออาจจะแบ็คแพ็คมาเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวแล้วอยากประหยัดในเรื่องของค่าที่พักก็แนะนำให้เลือกเป็นโรงแรมแคปซูล ซึ่งเป็นที่พักราคาประหยัดซึ่งสามารถพบเห็นได้ตามเมืองใหญ่ ๆ ซึ่งตอนนี้ก็มีโรงแรมแคปซูลพรีเมี่ยมที่น่าสนใจก็คือ “First Cabin” ซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่ด้วยกันหลายสาขาในเมืองใหญ่ของญี่ปุ่น เป็นโรงแรมแคปซูลที่บอกเลยว่าจะทำให้ประสบการณ์นอนโรงแรมแคปซูลของคุณเป็นเรื่องน่าประทับใจเลยทีเดียว
2. โรงแรมราคาประหยัด (Business Hotel)
เป็นโรงแรมมาตรฐาน 3 ดาว ที่มีอยู่ทั่วไปในญี่ปุ่น ซึ่งก็จะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟในเมืองต่าง ๆ เหมาะสำหรับนักธุรกิจที่เดินทางมาทำธุรกิจในระยะสั้นและนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์ญี่ปุ่น ดังนั้นใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วอยากได้ห้องพักที่มีความเป็นส่วนตัว สะดวกสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีราคาไม่แพง ก็แนะนำให้เลือกโรงแรมแบบนี้ ซึ่งก็มีโรงแรมแนะนำได้แก่ “Residential Hotel Hare Shin-Osaka” โรงแรมที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองโอซาก้ามาพร้อมจุดเด่นในเรื่องของการตกแต่งแบบญี่ปุ่นและความโมเดิร์นที่ลงตัว มีห้องครัวขนาดย่อมเครื่องซักผ้าให้ใช้งานกันด้วย
3. โรงแรมสไตล์ตะวันตก
เป็นโรงแรมหรู 4-5 ดาว ซึ่งถ้าหากใครวางแผนมาทัวร์ญี่ปุ่นเจ้าโชคดีเจอโปรโมชั่นเท่าพอดีก็อาจจะได้พักโรงแรมหรูในราคาไม่ต่างจากโรงแรมราคาประหยัดมากนักก็ได้ แต่แน่นอนว่าโดยทั่วไปแล้วก็จะมีราคาค่อนข้างแพงแต่ก็มีความสะดวกสบายสมราคาด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าหากใครมีงบประมาณเพียงพอก็สามารถเลือกพักโรงแรมแบบนี้ได้ ซึ่งโรงแรมที่น่าสนใจก็คือโรงแรม Mitsui Garden Hotel Nagoya Premier โรงแรมสไตล์ตะวันตกสุดหรูซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางเมืองนาโกย่า
4. โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นแบบเรียวกัง
ใครที่มาทัวร์ญี่ปุ่นแล้วอยากสัมผัสบรรยาบรรยากาศกาศการพักผ่อนที่เข้าถึงความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม แนะนำให้เลือกที่พักแบบเรียวกัง ซึ่งห้องพักก็จะตกแต่งด้วยเสื่อทาทามิและฟูกนอนปูกับพื้นแบบญี่ปุ่น นอกจากนี้ก็ยังมีออนเซ็นให้ได้มาใช้บริการกันอีกด้วย ซึ่งเรียวกังที่น่าสนใจก็จะเป็นที่ “Andon Ryokan” ใน Tokyo นี่เอง เรียกว่าเป็นสถานที่ที่ทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศการพักผ่อนแบบเรียวกังในใจกลางเมืองโตเกียวที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากมาย
นอกจากโรงแรมแล้วสำหรับใครที่มาทัวร์ญี่ปุ่นแล้วอยากได้ที่พักในรูปแบบอื่น ๆ ก็ยังมีบ้านพักตากอากาศ ที่พักแบบโฮมสเตย์ บ้านพักและห้องชุดที่เจ้าของปล่อยให้เช่าผ่านเว็บไซต์ Airbnb.com มาให้เลือกพักแรมกันในระหว่างที่ทัวร์ญี่ปุ่นอีกด้วย
แนะนำของฝาก ญี่ปุ่น

มาเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นทั้งทีต้องมีของฝากติดไม้ติดมือเอาไปให้เพื่อนฝูงและญาติสนิทมิตรสหายกันบ้าง ซื้อของฝากจากญี่ปุ่นที่หาซื้อได้ง่าย มีราคาไม่แพง ที่น่าสนใจก็มีดังนี้
1. แก้วสตาร์บัคญี่ปุ่น
แม้ว่าแก้วสตาร์บัคจะมีจำหน่ายกันอยู่ทั่วโลกแต่ก็จะมีลวดลายที่ทำออกมาโดยเฉพาะของประเทศนั้น ๆ กันอยู่ และแน่นอนว่าแก้วสตาร์บัคญี่ปุ่นนั้นก็เป็นอะไรที่มีลวดลายสวยงามน่ารักน่าซื้อเสียเหลือเกิน ดังนั้นมาทัวร์ญี่ปุ่นทั้งทีอย่าลืมแวะดูแก้วสตาร์บัคติดไม้ติดมือกันมาสักหน่อย จะซื้อมาใช้เองหรือจะซื้อเป็นของฝากรับรองใครได้รับเป็นต้องชอบใจอย่างแน่นอน
2. แก้วฟูจิ
เป็นของฝากสำหรับคนมาเที่ยวญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมาก ก็เป็นแก้วใสที่ออกแบบให้มีรูปทรงของภูเขาไฟฟูจิอยู่บริเวณก้นแก้ว เมื่อใส่น้ำลงไปก็จะทำให้เราได้เห็นภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม เรียกได้ว่าเป็นของฝากที่มีลักษณะเฉพาะของญี่ปุ่นและสามารถใช้งานได้จริงอีกด้วย
3. ช็อกโกแลต Royce'
ช็อกโกแลตที่เรียกได้ว่าใครมาเที่ยวญี่ปุ่นก็ต้องซื้อกลับบ้านด้วยกันทั้งนั้น ช็อกโกแลตยี่ห้อนี้ก็มีโรงงานผลิตอยู่ที่เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ซึ่งก็มีผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตออกมาจำหน่ายมากมายและที่ขึ้นชื่อเป็นที่นิยมมากก็จะเป็น ช็อกโกแลตนามะ (Nama Chocolate)
(อ่านบทความ : แนะนำ 10 ขนมญี่ปุ่น สวรรค์ของคนสายหวาน)
4. กาชาปอง
ไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องลองไขตู้กาชาปองกับเจ้าถิ่นกันดูสักครั้ง ซึ่งนอกจากจะได้ลุ้นของที่อยู่ด้านในแล้วว่าจะเป็นอันที่ต้องการหรือไม่ ก็ยังนำกาชาปองที่ไข่ออกมาเป็นของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับคนทางบ้านได้อีกด้วย เพราะบอกเลยว่าของที่อยู่ด้านในเป็นของดีของแท้ที่เกี่ยวข้องกับพวกอนิเมะ เกม มังงะ รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
5. ตุ๊กตาแมวกวัก
ใครที่ชื่นชอบแมวขอแนะนำของฝากจากการทัวร์ญี่ปุ่นเป็นตุ๊กตาแมวกวัก ซึ่งนอกจากจะเป็นสินค้าที่ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคล กวักโชคลาภ กวักเงินกวักทอง ทำมาค้าคล่องแล้ว ก็ยังมีดีไซน์ที่น่ารักและมีหลายขนาดให้เลือกเหมาะเป็นของฝากจากญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
6. สินค้าพื้นเมือง
อีกหนึ่งของฝากจากญี่ปุ่นที่หลายคนนิยมซื้อกลับไปฝากเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น เพราะนอกจากจะมีราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย ก็ยังมาพร้อมกับลวดลายในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ซึ่งสินค้าพื้นเมืองเหล่านี้ก็จะมีทั้งของกระจุกกระจิกเล็กน้อยอย่างเช่น พัด กระเป๋าผ้า ของแต่งบ้าน เครื่องครัว กระเป๋าใส่เหรียญ เหมาะกับการซื้อเป็นของฝากเล็กๆ น้อย ๆ จากการไปทัวร์ญี่ปุ่น
7. รองเท้ารุ่น Japan limited edition
ถึงแม้ว่ารองเท้ากีฬาจะมีจำหน่ายกันทั่วโลก แต่รองเท้ารุ่นที่ทำมาเป็น Japan limited edition ก็เป็นหนึ่งในของฝากจากญี่ปุ่นที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะแน่นอนว่าเป็นลวดลายที่ผลิตมาจำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นเมื่อมาญี่ปุ่นก็อย่าลืมซื้อรองเท้าที่เป็น Japan limited edition ไปเป็นของฝากหรือซื้อกลับไปสะสมก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
ดังนั้นใครที่วางแผนจะมาทัวร์ญี่ปุ่นก็ลองพิจารณาดูจากงบประมาณ ระยะเวลา และสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการไปเยือนกันก่อนนะคะ จะได้วางแผนการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นอย่างมีความสุข ในงบประมาณที่เราวางไว้กันค่ะ




























